วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2554

สอนการใช้งานโปรแกรม Freemind

"Freemind"

FreeMind เป็นโปรแกรม mind map ที่สะดวกในการใช้งาน ด้วยการ fold/unfold ภายในคลิกเดียว และการ link ไปยังไฟล์หรืออินเทอร์เน็ต FreeMind เหมาะสำหรับการจัดการโครงการ โดยแบ่งเป็นงานย่อย, เป็นเนื้อที่สำหรับโครงการโดยการ link ไปยังไฟล์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง, สร้างฐานความรู้, การ brainstorm, เป็นฐานข้อมูลที่มีโครงสร้าง ฯลฯใน FreeMind คุณสามารถท่องไปใน mind map ได้อย่างรวดเร็ว 

1.เปิดหน้าต่างโปรแกรม Freemind


2.ทำการเปลี่ยนข้อความโดยคลิกที่ node แล้วพิมพ์ข้อความที่เราต้องการใส่ลงไป


3.ถ้าต้องการแตกประเด็นย่อยต่างๆให้คลิกขวาที่ node แล้วเลือกที่ New child node เสร็จแล้วก็ใส่
ข้อความที่เราต้องการลงไป



4.ถ้าต้องการลบ node ใดออกให้คลิกขวาแล้วเลือกที่ Remove node


5.ถ้าต้องการให้ node มีเส้นขอบให้คลิกขวาแล้วเลือกที่ format แล้วเลือกที่ Bubble




6.ถ้าต้องการเปลี่ยนสีของตัวอักษรให้คลิกขวาแล้วเลือก format แล้วเลือกที่ node color แล้วเลือกสีตามต้องการ




7.ถ้าต้องการเปลี่ยนสีพื้นหลังให้เลือกที่ format แล้วเลือกที่ node background color จากนั้นให้เลือกสีตามต้องการ





Vocabulary from music


"My heart will go on"




dream = ความฝัน
Every night in my dreams i see you ,i feel you, 

across = ข้าม,ตลอด
That is how i know you go on. Far across the distance 

space = ระยะห่าง,ช่องว่าง,อวกาศ
And spaces between us You have come to show you go on

wherever = ที่ใดๆ
Near, far, wherever you are

believe = เชื่อถือ, ศรัทธา

I believe that the heart does go on 
Once more you open the door 
And you're here in my heart 
And my heart will go on and on
 

touch = รายละเอียด, มีอิทธิพล
Love can touch us one time 

lifetime = เวลาที่ยาวนาน , ระยะเวลาที่มีชีวิตได้
And last for a lifetime 
And never let go till we're one 

hold = กอด,จับไว้
Love was when I loved youOne true time I hold to 
In my life we'll always go on 

Near, far, wherever you are 
I believe that the heart does go on 
Once more you open the door 
And you're here in my heart 
And my heart will go on and on 

There is some love that will not go away 
forever = ตลอดไป
safe = ปลอดภัย
You're here, there's nothing I fear, 
And I know that my heart will go on 
We'll stay forever this way 
You are safe in my heart 
And my heart will go on and on


แหล่งที่มา


Movie and Superstar

ภาพยนต์ที่ชื่นชอบ

1.ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช : เป็นภาพยนต์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทย ปลูกผังให้ผู้ที่ได้รับชมมีจิตสำนึกรักแผ่นดินเกิด และมีความสนุก ตื่นเต้น พร้อมทั้งมีฉากที่สวยงาม
2.กวนมึนโฮ : เป็นภาพยนต์ที่มีเนื้อหาที่สนุกสนาน ครบทุกรส ดูแล้วทำให้อารมณดี ตลก
3.ทรานฟอร์เมอร์ : เป็นภาพยนตืที่น่าตื่นเต้นและน่าสนใจ ดูแล้วสนุสนานน่าติดตาม
4.X Men : เป็นภาพยนต์ที่น่าสนใจเพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับมนุษย์กลายพันธุ์ ดูแล้วน่าตื่นเต้นและสนุกสนาน
5.Harry Potter : เป็นภาพยนต์ที่ดูแล้วทำให้เกิดจินตนาการที่ดี เพราะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพ่อมดและเวทมนต์










แหล่งที่มา




Superstar ที่ชื่นชอบ

1.ญาญ่า อุรัสยา สเปอร์บันด์ : ชอบลักษณะนิสัยที่น่ารักแบบเด็กๆของเธอ
2.แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์ :  เธอเป็นคนที่น่ารักและเรียนเก่ง
3.อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ : เธอเป็นนักแสดงที่สวยและมากด้วยฝีมือ
4.เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ : เขาเป็นนักแสดงที่เก่งและร้องเพลงได้ไพเราะมาก
5.หมาก ปริญ สุภารัตน์ : เป็นนักแสดงที่เก่งและดูเท่






แหล่งที่มา

http://picpost.postjung.com/92246.html




วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2554

"วิกรม กรมดิษฐ์"


 "วิกรม กรมดิษฐ์" ผู้ก่อตั้งและประธานบริหาร บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) เจ้าของโครงการนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร พร้อมทั้งมีบริษัทในเครืออมตะอีกหลายแห่ง รวมถึงที่อยู่ในเวียดนามด้วย  เขาพลิกผันตัวเองจากครอบครัวที่ทำอาชีพค้าขายในจังหวัดกาญจนบุรี มาสู่เจ้าของอาณาจักรนิคมอุตสาหกรรม

วิกรม กรมดิษฐ์


         วิกรม กรมดิษฐ์ เกิดเวลา 24.00 น. วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2496 ทวดของเขามาจากเมืองจีนมาทำการค้าขายในเมืองไทย จนได้แต่งงานกับย่าทวดที่ทำธุรกิจด้านยาสูบ ต่อมาในรุ่นของคุณปู่ก็มีใช้เรือในการขนส่งใบยาจากกาญจนบุรีมาที่กรุงเทพฯ และส่งไปขายต่อที่จีน ส่วนตัวเขาเองนั้นขณะที่เรียนชั้นประถม 1 ก็เริ่มทำการค้าขายแล้ว เป็นการขายถั่วคั่วที่เขาทำเรื่อยมาจนถึงประถม 3 ต่อมาก็ไปรับขนมปังและลูกอมมาขายควบคู่ไปด้วยเลย ซึ่งวิกรมนั้นมีความฝันที่อยากจะมีกิจการเป็นของตัวเองตั้งแต่เด็ก และด้วยความที่เขาต้องควบคุมคนงานมาตั้งแต่เด็กๆ จึงทำให้รู้จักการวางตัวให้น่าเชื่อถือเพื่อจะได้สามารถควบคุมคนหมู่มากได้

         กระทั่งได้รับทุนการศึกษาในระดับปริญญาตรี จากรัฐบาลไต้หวัน เขาก็เริ่มทำธุรกิจแบบจริงจังมากขึ้นด้วยการนำเข้าอะไหล่วิทยุ, โทรทัศน์ และเครื่องสูบน้ำ จากประเทศไต้หวันเข้ามาขายในไทย และก็ได้นำสินค้าจำพวก เครื่องหนัง, ทองรูปพรรณ และเมล็ดพันธุ์ต่างๆ กลับไปขายในไต้หวัน จนสร้างรายได้ให้เขาเป็นกอบเป็นกำ  เหตุผลที่วิกรม ต้องดิ้นรนทำมาค้าขายแบบนี้ก็เพราะเขามีปัญหากับพ่อ ทำให้พ่อไม่ส่งเสียจึงต้องพยายามหาทางส่งเสียตัวเอง และในที่สุดเขาก็เรียนจบปริญญาตรีจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน ต่อมาเขาก็ได้ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ในสาขาวิชาการบริหารทั่วไป จากมหาวิทยาลัยรามคำแหงอีกด้วย 

วิกรม กรมดิษฐ์


         สิ่งที่วิกรมได้เรียนรู้มาตั้งแต่เด็กนั้น ช่วยหล่อหลอมจนมาถึงวันที่เขาเปิดบริษัทของตัวเอง จากบริษัทส่งออกสินค้าระหว่างประเทศ, ธุรกิจค้าส่งอาหารอย่างทูน่า, ผลิตอาหารกระป๋องส่งขายต่างประเทศ จนมาถึงโรงงานผลิตอาหารที่เป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม จนมาเป็น บริษัทอมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาและจัดการด้านนิคมอุตสาหกรรม หรือเรียกง่ายๆ ก็คือเป็นการเปิดพื้นที่ให้ผู้ที่สนใจเช่าทำเป็นโรงงานอุตสาหกรรม โดยในนิคมอุสาหกรรมจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ อาทิ บ้านพัก หรือ อพาร์ทเมนต์ และสิ่งอุปโภคบริโภคต่างๆ ซึ่งบริษัทอมตะมีนิคมอุตสาหกรรมหลักๆ 3 แห่ง คือ อมตะนคร จังหวัดชลบุรี, อมตะซิตี้ จังหวัดระยอง และอมตะซิตี้ เบียนหัว ที่อยู่ในประเทศเวียดนาม

         บริษัทในเครืออมตะนั้นมีมากมาย ได้แก่ บริษัท อมตะซิตี้ จำกัด, บริษัท อมตะ (เวียดนาม) จำกัด, บริษัท อมตะ วอเตอร์ จำกัด, บริษัท อมตะ ฟาซิลิตี้ เซอร์วิส จำกัด, บริษัท อมตะ แมนชั่นเซอร์วิส จำกัด, บริษัท อมตะ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด, บริษัท อมตะ คอนโดทาวน์ ระยอง จำกัด, บริษัท อมตะ เพาเวอร์ จำกัด, บริษัท อมตะ จัดจำหน่ายก๊าซธรรมชาติ จำกัด, บริษัท อมตะ ซัมมิท เรดดี้ บิลท์ จำกัด, บริษัท เวีย โลจิสติกส์ จำกัด, บริษัท โรงพยาบาลวิภาราม (อมตะนคร) จำกัด และบริษัท เวีย ทรานส์ จำกัด



         นอกเหนือจากการบริหารกิจการในเครืออมตะแล้ว คุณวิกรมยังเคยทำงานด้านอื่น ไม่ว่าจะเป็นฐานะผู้จัดรายการวิทยุ ที่ใช้ชื่อรายการว่า "CEO Vision" และก็ยังเคยเป็นคอลัมนิสต์ให้กับหนังสือพิมพ์คมชัดลึก, มติชน และโพสต์ทูเดย์ แถมยังเคยเขียนหนังสือ "ผมจะเป็นคนดี" กับ "มองโลกแบบวิกรม" ที่ขายได้ในระดับแสนเล่มมาแล้ว อีกทั้งด้วยความที่คุณวิกรมเป็นนักบริหารที่มีความสามารถจึงทำให้เขาถูกสัมภาษณ์ลงนิตยสารมากมาย อาทิ Thai Commerce, Thailand Timeout และ Forbes เป็นต้น

         ส่วนงานด้านอื่น วิกรมเคยเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กับที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และยังเคยเป็นประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, ประธานสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย, ประธานคณะกรรมการไทย ไต้หวัน สภาอุตสาหกรรม

         สิ่งที่ทำให้ผู้ชายที่ชื่อวิกรมมีทุกสิ่งทุกอย่างในทุกวันนี้นั่นก็คือ ความเป็น "นักฝัน" ของเขา ซึ่งเขาเคยเขียนไว้ในหนังสือ "มองโลกแบบวิกรม" ว่า "ผมเป็นคนชอบหลอกตัวเองด้วยการสร้างความรู้สึกในแง่ดีบ่อยๆ กระทำจนเป็นนิสัยในการล่อหลอกตัวเองให้ทำในสิ่งที่ฝันไว้ เพราะความฝันคือเข็มทิศ เป็นพลังขับเคลื่อนชีวิต เป็นน้ำหล่อเลี้ยงมนุษย์ และที่สำคัญ ความฝันไม่เสียสตางค์"

         ทั้งนี้ชีวิตในวัยเด็กของ วิกรม นั้นไม่เคยมีแม้ห้องส่วนตัว เขาจึงฝันอยากจะมีอาณาจักรส่วนตัวที่เขาจะมีอิสระและทำอะไรก็ได้ตามใจ ฝันนั้นจึงกลายมาเป็นอาณาจักร "อมตะนคร" และ "บ้าน" ก็เป็นอีกฝันที่คุณวิกรมปรารถนา เขาได้สร้างบ้าน 2 หลัง หลังหนึ่งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ บนเนื้อที่กว่า 30 ไร่ พื้นที่ดังกล่าวเมื่อก่อนเป็นเพียงไร่ข้าวโพดธรรมดา แต่ปัจจุบันเต็มไปด้วยธรรมชาติมากมาย ทั้งสระน้ำขนาดเกือบ 3 ใน 4 ของเนื้อที่, ภูเขา ที่นำดินจากการขุดสระมาสร้าง, ถ้ำ ที่สร้างขึ้นเอง และในถ้ำยังมีห้องนอน ห้องรับแขก ภาพวาดเกี่ยวกับชีวิตครอบครัว ที่เลียนแบบประติมากรรมจากผาแต้มอีกด้วย

บ้าน วิกรม กรมดิษฐ์


         ทุกสิ่งเหล่านี้ล้วนมาจากความฝันของเขาทั้งนั้น วิกรมเคยบอกว่า เขาอยากมีภูเขา อยากมีถ้ำเป็นของตัวเอง แต่การจะไปซื้อหรือยึดที่เป็นของหลวง หรือของรัฐคงไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงต้องสร้างธรรมชาติเหล่านั้นขึ้นมา  นอกจากนี้ในเนื้อที่ดังกล่าวยังเต็มไปด้วยต้นไม้ ที่เขาปลูกไว้ และคาดว่าอีกไม่กี่ปีบนเนื้อที่ของเขาจะเป็นป่าสงวนย่อมๆ เลยทีเดียว … ท่ามกลางธรรมชาติ วิกรมยังได้สร้างบ้านในสระน้ำอีกด้วย โดยเขาได้ตั้งชื่อไว้ว่า "ศานติสงบ" อันเป็นสถานที่ที่เขาจะได้สัมผัสความสงบจากธรรมชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่ปลูกฝังเขามาตั้งแต่เด็กๆ

         ส่วนบ้านอีกหลังของวิกรมอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ใช้ชื่อว่า "AmataCastle" โดยเขาตั้งใจสร้างให้เป็นปราสาทหินทรายฝังบรอนซ์หลังใหญ่ ภายในจะมีทั้งสเตเดียมแบบกรีกโรมัน, ห้องบอลรูม และสวนป่าหิมพานต์ พร้อมทั้งยังเปิดเป็นหอศิลป์โชว์ภาพเขียนของศิลปินในเมืองไทย อีกทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์จัดแสดงของโบราณและของใช้ส่วนตัวที่มีค่าทางจิตใจต่อตัวเขาอีกด้วย

         แม้ชีวิตวิกรมจะมีหลายสิ่งที่ทำให้เขาได้รับการยกย่องและเชิดชูให้เป็นบุคคลที่มากไปด้วยความสามารถ เป็นคนที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล และประสบความสำเร็จมากๆ คนหนึ่ง แต่ใครจะรู้ว่าในอีกมุมชีวิตของวิกรมยังมีเรื่องให้อึ้งได้เช่นกัน พร้อมกับเกิดคำถามตามมาว่า "เขาทำเช่นนี้ได้อย่างไร"
         ทั้งนี้วิกรมเคยมีปัญหากับพ่อ และถึงขนาดว่าเขาได้ทำร้ายพ่อมาแล้ว ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เขาต้องหนีออกจากบ้าน และทุกวันนี้เขาก็ไม่เคยกลับบ้านนานมาแล้วหลายปี และที่เคยคุยกับพ่อก็เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา แถมเป็นการคุยกันทางโทรศัพท์อีกต่างหาก

         "ผมล้มเหลวกับครอบครัว โดยเฉพาะกับพ่อ และนี่คือสิ่งที่ผมอยากถ่ายทอดให้แก่คนรุ่นใหม่ อะไรที่เป็นสีดำ อะไรที่เป็นความผิดพลาดในชีวิตของผม ผมไม่ปิดบังเลยนะ อย่างเรื่องที่ผมขัดแย้งกับพ่อ ผมไม่อยากให้มันเกิดกับคนอื่น ผมถึงเอาตัวผมเป็นตัวอย่าง เอาตัวผมไปเป็นตัวละคร ให้คนอื่นได้ดูว่าตัวละครตัวนี้มันเต้นผิดยังไง มันร้องผิดรำผิดยังไง"





ที่มา

พญ.ชัญวลี ศรีสุโข



ชัญวลี ศรีสุโข  เป็นชาวจังหวัดเชียงใหม่  เกิดในครอบครัวศิลปินมีคุณแม่เป็นกวี-นักเขียน ใช้นามปากกาว่า นที ศรีสวัสดิ์  มีคุณตาเป็นช่างฟ้อนและครูดนตรีไทย   หากมองในเวทีประกวดวรรณกรรมบ่อยครั้งมักจะมีชื่อของ ชัญวลี ศรีสุโข  ติดโผอยู่เป็นประจำ 
ชัญวลี ศรีสุโข  เป็นนักศึกษาทุนแพทยศาสตร์บัณฑิต จาก มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปัจจุบันนี้ คุณหมอชัญวลี  ศรีสุโขใช้ชีวิตครอบครัวที่แสนอบอุ่นกับ นายแพทย์พัฒนัตถ์ ศรีสุโขและบุตรชายอีก3คน  นอกจากการเป็นสูติ-นรีแพทย์ ,หัวหน้าแผนกสูติ ของโรงพยาบาลพิจิตร ที่มีหน้าที่ค่อยตรวจรักษาผ่าตัดคนไข้ สอนหนังสือนักศึกษาแพทย์  เป็นวิทยากรทั้งรายการวิทยุและโทรทัศน์ แล้วเธอยังหาเวลาว่างเขียนหนังสือซึ่งถือว่าเป็นงานอีกอย่างที่เธอชอบและทุ่มเทกับมัน

เกิดที่เชียงใหม่ คุณแม่เป็นกวีและนักเขียน นามปากกานที ศรีสวัสดิ์ คุณตาเป็นช่างฟ้อนและครูดนตรีไทย คุณพ่อคุณแม่แยกทางกัน คุณแม่เสียชีวิตเมื่ออายุ36ปี  ชอบขีดเขียนมาตั้งแต่เด็กแล้ว ตนเองจึงเชื่อว่าการเขียนหนังสือได้...เป็นพรสวรรค์ แต่การเขียนหนังสือดี...เป็นพรแสวง
จำได้ว่าเป็นนักเรียนเขียนเรียงความครูให้10.5 จากคะแนนเต็ม10ประจำ เขียนกลอนมาตั้งแต่เด็ก ส่งวารสารครูเชียงใหม่  ตอนนั้นคุณแม่จะจัดรายการทางสถานีวิทยุ  ชื่อรายการชื่อวลีทิพย์ ก็จะส่งไปที่รายการที่คุณแม่จัดด้วย                ตอนเรียนแพทย์ เป็นประธานชมรมวรรณศิลป์ของคณะ ได้เขียนเรื่องเล่าลงจุลสารของคณะ และที่ชอบคือ เขียนจดหมายถึงใครต่อใครมากมาย
จนจบเป็นสูติแพทย์ ลูกโตแล้ว จึงเริ่มเขียนหนังสือในปีพ.ศ.2537 เริ่มจากเขียนกลอนและกลอนเปล่าลงวารสารวงการแพทย์ ต่อมามีคนประท้วงว่า ไม่เกี่ยวกับวงการแพทย์ เลยเปลี่ยนมาเขียนบทความและเรื่องสั้น จากนั้นได้ส่งเรื่องสั้นไปตามนิตยสารต่างๆ ปีพ.ศ.2539 เรื่องสั้นยายของนุช’ ตีพิมพ์เป็นเรื่องสั้นเรื่องแรกในนิตยสารดิฉัน แล้วก็ได้ส่งเรื่องสั้นประกวดรางวัลสุภาว์ เทวกุล “ตาของหมอเป็นเรื่องสั้น1ใน10รางวัลสุภาว์ เทวกุลฯปีพ..2540 ต่อจากนั้นก็เริ่มเขียนเรื่องสั้น นวนิยาย วรรณกรรมเยาวชน บทความวิชาการ บทความแสดงความคิดเห็น  ทั้งพิมพ์เป็นเล่ม ส่งประกวด และตีพิมพ์ในนิตยสารต่างๆ

พ.ญ.ชัญวลี ศรีสุโขมีผลงานรวมเล่มออกมาแล้วมากมายทั้งงานทางวรรณกรรมและงานที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะอย่างบทความทางวิชาการต่างๆ ไม่น่าแปลกใจที่พญ.ท่านนี้จะถูกจัดอยู่ในทำเนียบนักเขียนมือรางวัล เพราะเกือบทุกเวทีมักจะมีนามของเธอปรากฏอยู่ด้วยเสมอๆ เรามาลองไล่กันดูเล่นๆดีกว่า ว่าสมญานามนักล่ารางวัลแห่งถ้ำชาละวันเหมาะสมกับเธอหรือไม่ประการใด

รางวัลทางวรรณกรรม
 ตาของหมอเป็นเรื่องสั้น1ใน10รางวัลสุภาว์ เทวกุลฯปีพ..2540
ปิมปาเป็น นวนิยายรางวัลสุภาว์ เทวกุลฯ”2541
ครั้งหนึ่ง…”เป็น1ใน12เรื่องสั้นรางวัลสุภาว์ เทวกุลฯ”2543
ผู้เข้มแข็งเป็น1ใน15เรื่องสั้น รางวัลช่อปาริชาติ 2544
หมอน้อยกายสิทธิ์เป็นวรรณกรรมเยาวชนรางวัลชมเชยพระราชทาน แว่นแก้ว2544
บัตรทองคำเป็นเรื่องสั้นดีเด่นรางวัลช่อปาริชาต2545
เกนเจ้ามังกรน้อย” รางวัลนิทานสีรุ้งยอดเยี่ยม 2546
ม้าขี่ผีเจ้านายเรื่องสั้นการเมืองรางวัลชมเชยพานแว่นฟ้า จากรัฐสภา2546
สัญชาตญาณเรื่องสั้นชนะเลิศ รางวัล อ.ไชยวรศิลป์ สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย ครั้งที่2,2547
เกมมัจจุราชพ็อคเก็ตบุ๊กส์รวมเรื่องสั้น รางวัลชมเชย 7-awards2547
ระบำหุ่นเรื่องสั้นการเมืองรางวัลชมเชยพานแว่นฟ้าจากรัฐสภา254
ต้นกล้าวรรณกรรมรองชนะเลิศรางวัลดวงดาวของกระทรวงเทคโนโลยี่สารสนเทศและการสื่อสาร(ICT)(ไม่มีรางวัลชนะเลิศ)2548
บัตรทองคำ” พ็อคเก็ตบุ๊กส์รวมเรื่องสั้น รางวัลชมเชยหนังสือดีเด่นประจำปี2548ของกระทรวงศึกษาธิการ
ดังลมพัดผ่านเรื่องสั้นรางวัลชมเชยวิชิต โรจนประภาครั้งที่1 2548
ปั้นเลขเป็นตัวเรื่องสั้นการเมืองรางวัลชมเชยพานแว่นฟ้าจากรัฐสภา2548

ได้รับรางวัลมามากมายถือว่าเล่มไหนเป็นผลงานสร้างชื่อของตัวเอง
สำหรับเรื่องรางวัลมองว่ารางวัลสร้างทั้งความมั่นใจในสิ่งที่ทำ และกำลังใจที่จะก้าวเดินต่อไป ส่วนเล่มไหนเป็นเล่มที่สร้างชื่อนี้ไม่รู้เหมือนกัน   รู้แต่ว่าค่อยๆสะสมปริมาณมาเรื่อยๆ แม้พอใจผลงานทุกชิ้น แต่ก็ยังรู้สึกว่าตนเองยังไม่มีคุณภาพพอ ประเภทที่เรียกว่าผลงานดีเยี่ยมไม่มีข้อติ ยังไม่มีก็ตั้งใจไว้ว่า เขียนให้ได้มากทั้งคุณภาพและปริมาณอันเป็นประโยชน์ เป็นแรงบันดาลใจ หรือสร้างสรรค์ความคิดแก่ผู้อ่าน วันที่จะเลิกเขียนหนังสือนั้น ไม่เคยคิดเลย แต่คิดว่าหากสังขารไม่อำนวยหรือมีเรื่องอื่นที่ต้องจัดการจนไม่มีเวลาเขียน หรือเขียนแล้วด้อยลงเรื่อยๆมากๆเป็นที่อเนจอนาถคนอ่าน ก็คงไม่เขียน  แม้ไม่คิดว่าตนเองจะวางปากกา แต่รู้ว่าคนเรานั้นไม่ได้อยู่ค้ำฟ้า การทำงานทุกอย่างได้มากและดีต้องอาศัยกำลังกายกำลังใจ เชื่อว่าคนที่ทำงานได้ดี นอกจากแรงกระตุ้นภายในแล้ว เบื้องหลัง เบื้องหน้า เบื้องบน เบื้องข้าง ต้องดี ดังนั้นหากไฟหมด รอบข้างมีปัญหา ก็อาจวางปากกาโดยปริยาย

เขียนบทความทางวิชาการด้วย?
ปัจจุบันเขียนบทความวิชาการและกึ่งวิชาการมากกว่างานอื่นๆ เดือนหนึ่งเขียนเกือบ10ชิ้น และได้รับการชักชวนให้เขียนเรื่องเซ็กซ์และพูดเรื่องเซ็กซ์มากขึ้น บทความทางวิชาการยังช่วยในการเป็นวิทยากร ปัจจุบันเป็นวิทยากรประจำรายการชูรักชูรส ทีวีสีช่อง3, คลับสุขภาพ ทีวีสีช่อง7, วิทยากรทีวีรายสะดวก รายการร้านชำยามเช้า ITV, คุยรักออกรส เอเอสทีวี ,วิทยากรประจำวิทยุชูรักเรดิโอ 105 เมกกะเฮิรทซ์ ออกทุกพฤหัส เวลา21.00-22.30น. รับฟังได้ที่กรุงเทพฯ

 เป็นหมอกับเป็นนักเขียนชอบอะไรมากกว่ากัน
อาชีพหมอเป็นอาชีพที่รักและภาคภูมิใจอันดับหนึ่ง เขียนหนังสือรองลงมา เคยคิดว่าหากไม่ได้เป็นหมอหรือคนเขียนหนังสือจะรู้สึกอย่างไร คำตอบที่ตอบตนเองก็คือ คงเป็นอะไรก็ได้ ที่เกิดประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัวและสังคม ตอนเด็กๆอยากเป็นช่างฟ้อน และถ้าเป็นจริงโปงลางสะออนก็โปงลางสะออนเถอะ คิดว่าตนเองคงเป็นได้เหมือนกัน

ฝากถึงคนอยากเป็นนักเขียน
อยากเขียนลงมือเขียนแต่อย่ามุ่งหวังสูง จงเชื่อว่าการเดินทางไปสู่ประตูความเป็นนักเขียนไม่มีทางลัด ไม่มีลิฟต์ ไม่มีวิธีอื่นใด นอกจากเคี่ยวกรำตนเอง อาศัยกำลังใจการลองผิดลองถูกและความอดทน หากมีผู้ที่เดินทางโดยทางลัดไม่ว่าจะด้วยวิธีใด สุดท้ายเขาก็มักจะหายสาบสูญจากการเป็นนักเขียน

************


ผลงานรวมเล่มที่ผ่านมาของ ชัญวลี ศรีสุโข (พ็อคเก็ตบุ๊กส์)(คนเดียว)
นวนิยายปิมปาสนพ.ดับเบิ้ลนายน์ 2542,
รวมเรื่องชุดฉุกเฉินสนพ.สนุกอ่าน2544,
หมออินเทอร์น” สนพ.สนุกอ่าน2544 ,
เรื่องสั้นหมอหมอ” สนพ.สนุกอ่าน2544,
บันเทิงบันทึกนักศึกษาแพทย์” สนพ.สนุกอ่าน2545,
“ ร้อยแปดคนไข้ไอซียูสนพ.สนุกอ่าน 2545,
วรรณกรรมเยาวชนหมอน้อยกายสิทธิ์” สนพ.นานมีบุ๊คส์2545,
รวมเรื่องสั้นเกมมัจจุราช” สนพ.ดับเบิ้ลนายน์ 2545,
เพื่อนชีวิตอิสตรีสนพ.สนุกอ่าน2546,
นิทานเกนเจ้ามังกรน้อยสนพ.สุขภาพใจ2546 ,
บัตรทองคำรวมเรื่องสั้นสนพ.ดับเบิ้ลนายน์ 2548,
เรื่องวุ่นๆของน้องจุ๋มจิ๋ม” สนพ.ณ เพชร2548,
สวัสดีคุณหมอใหม่รวมบทความสนพ.สนุกอ่าน2548,
คุณผู้หญิง(ไม่)กล้าถามรวมบทความ สนพ.บุ๊คไทม์(สุขภาพใจ)2548,
คุณผู้หญิงควรรู้” รวมบทความสนพ.บุ๊คไทม์(สุขภาพใจ)2548,
นิทานสิงโตน้อยกับปีศาจฯนิทาน สนพ.สถาพรบุ๊กส์ 2548
ต้นกล้าวรรณกรรมเยาวชน สนพ.ณ เพชร  2548
เรื่องน่ารู้สูติ-นรีเวชรวมบทความ สนพ.สุขภาพใจ 2549
บทเรียนของลูกหมีนิทาน สนพ.สถาพรบุ๊คส์ 2549
 คุณหมอคะ ช่วยทีเถอะรวมเรื่องเซ็กซ์ สนพ.สุขภาพใจ 2549ฯลฯ

เหตุผลที่ชื่นชอบ
            ดิฉันได้มีโอกาสได้อ่านหนังสือที่ พญ.ชัญวลีเขียนหลายเล่ม จึงได้รู้ว่ากว่าที่เธอจะมายืนที่จุดนี้ได้ต้องใช้ความพยายามและขยันหมั่นเพียรเป็นอย่างมาก เธอเป็นคนที่มีความสามารถในหลายด้านอีกทั้งยังใช้ความสามารถที่มีบวกกับอาชีพที่ทำอยู่มาเขียนเป็นหนังสือเพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น










ที่มา
http://www.praphansarn.com/new/c_talk/detail.asp?ID=201
http://www.youtube.com/watch?v=kc5Dtcu3TUA

วันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2554

โซนี่ เปิดแอปฯ 'Sony Music SLIDE'

'
       โซเชี่ยลมิวสิคแอปฯพอร์ทัลของโซนี่มิวสิค เน้นการใช้งานง่ายช่วยให้กลุ่มลูกค้าสามารถเข้าถึงคอนเทนต์ต่างๆได้รวดเร็วขึ้น และสามารถแชร์คอนเทนต์ที่ตัวเองชื่นชอบไปให้กับเพื่อนๆผ่านทางโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กได้อย่างง่ายดาย 
       นายพอล มนัสถาวร ผู้อำนวยการกลุ่มงานดิจิตอล บริษัท โซนี่ มิวสิค (ประเทศไทย) กล่าวว่า 
บริษัทมีแผนที่จะปรับทิศการทำธุรกิจเพลงของโซนี่มิวสิคทั้งหมดให้สอดรับกับยุคดิจิตอลซึ่งในเบื้องต้นได้ทำการศึกษาพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายของโซนี่มิวสิคพบว่า กลุ่มคนฟังเพลงของโซนี่มิวสิคส่วนใหญ่นิยมใช้สมาร์ทโฟนที่หลากหลาย โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนในตระกูล iOS อาทิ ไอโฟน , ไอแพด
       
โซนี่ มิวสิค จึงได้เปิดตัวแอปพลิเคชั่นใหม่ 'Sony Music SLIDE' ภายใต้คอนเซ็ปต์ โซเชี่ยลมิวสิคแอปฯของเมืองไทย เน้นการเป็นโซเชี่ยลมิวสิคแอปฯพอร์ทัลที่เน้นการใช้งานง่ายเพื่อช่วยให้กลุ่มลูกค้าสามารถเข้าถึงคอนเทนต์ต่างๆได้รวดเร็วขึ้น และสามารถแชร์คอนเทนต์ที่ชื่นชอบไปให้กับเพื่อนๆผ่านทางโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ก
        อีกทั้งยังสามารถเชื่อมโยงโลกโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กเข้ากับศิลปินที่ชื่นชอบทั้งไทยและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น Facebook และ Twitter ด้วยวิธีง่ายๆเพียงดาวน์โหลดแอปฯ Sony Music SLIDE จาก App Store เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์การใช้งาน 3G ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้
        
'ผมเชื่อมั่นว่าเมื่อ 3G
เน็ตเวิร์กมาถึงก็จะเป็นการเปิดตลาดรูปแบบใหม่และทำให้คนสามารถเข้าถึงคอนเทนต์ได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะคอนเทนต์ของโซนี่มิวสิคถือได้ว่าเป็นพรีเมี่ยมคอนเทนต์ไม่ว่าจะเป็น เพลง ,




แหล่งข้อมูล
http://www.bcoms.net/news/detail.asp?id=11981




My Profile

ชื่อ นางสาวพจมา ตากกระโทก
ชื่อเล่น อุ้ม
เกิด 2 เมษายน พ.ศ.2535 อายุ 19 ปี
ที่อยู่ 195 หมู่ 10 ต.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ 31140

บิดาชื่อ จอ.สุทัศน์ ตากกระโทก อาชีพ พนักงานรัฐวิสาหกิจ
มารดาชื่อ นางเจิมศรี ขวัญรัมย์ อาชีพ ธุรกิจส่วนตัว
มีพี่น้อง 2 คน 1.นางสาวพจมา ตากกระโทก
                    2.นายฐิติกานต์  ตากกระโทก
วิชาที่ชอบ คณิตศาสตร์
วิชาที่ไม่ชอบ ภาษาอังกฤษ
เวลา
จบการศึกษาระดับประถมศึกษาจาก โรงเรียนมารีย์อนุสรณ์ จังหวัดบุรีรัมย์
จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจาก โรงเรียนประโคนชัยพิทยาคม

ปัจจุบันศึกษาอยู่ที่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยศรีนคริทรวิโรฒ ชั้นปีที่1


                                                    **************************


สิ่่งที่ชอบที่สุด
1.เวลาที่ได้ไปเที่ยวกับครอบครัว
2.เวลาที่ได้กินชาบูชิ
3.เวลาที่ได้ซื้อหนังสือนิยาย
4.เวลาที่มีการบ้านน้อยๆ
5.เวลาที่ได้ไปทำบุญที่วัด
                                                     ***************************


สิ่งที่ไม่ชอบที่สุด
1.ไม่ชอบงูทุกชนิดประเภทว่าเห็นรูปก้ยังไม่ได้
2.ไม่ชอบกินอะไรที่มีรสชาติขมๆ
3.ไม่ชอบฤดูฝน เพราะ ทำให้ไม่สบายง่าย
4.ไม่ชอบคนที่เอาแต่ใจตัวเองและเห็นแก่ตัว
5.ไม่ชอบไปที่ที่มีคนเยอะๆ เพราะ มันแออัด